บทที่ 2
“พูดมานะ ว่าใช่เธอรึเปล่าที่เป็นคนมอมยาเร็กซ์ ไม่ใช่แค่ปีนขึ้นเตียงเขา แต่ยังจงใจทำให้เรื่องนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วอีก?!”
ไม้เท้าฟาดลงบนแผ่นหลัง การทุบตีอย่างหนักหน่วงทำให้คิมเบอร์ลี่ได้สติกลับมาในทันใด
เมื่อลืมตาขึ้น ภาพทิวทัศน์ที่คุ้นเคยโดยรอบทำให้ม่านตาของเธอหดเล็กลง
ห้องนั่งเล่นในเรือนเก่าของตระกูลกุลจันทร์?
เธอไม่ได้ตายในห้องหอของเธอกับเร็กซ์หรอกเหรอ?
แรงระเบิดที่ฉีกร่างของเธอเป็นชิ้นๆ เปลวไฟที่แผดเผา ความเจ็บปวดนั้นเธอยังคงจำได้ขึ้นใจ ทำไมถึง...
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทันตั้งตัว เสียงเยาะเย้ยถากถางจากคนรอบข้างก็ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย
“ไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครได้ล่ะ? อุตส่าห์ได้เป็นหนูตกถังข้าวสาร มีชีวิตสุขสบายมาหลายปี จะยอมกลับไปใช้ชีวิตจนๆ แบบเดิมได้ยังไงกัน? ก็ต้องรีบหาเสาหลักทองคำที่แข็งแรงเกาะไว้ให้แน่นก่อนจะถูกไล่ออกจากบ้านน่ะสิ! แถมยังกล้าเอาตัวเองไปเป็นต้นแบบเขียนนิยายแอบรักอีกนะ แหมๆๆ เด็กสาวบ้านดีๆ ที่ไหนเขาจะไม่ตั้งใจเรียน แต่กลับมีเรื่องผู้ชายเต็มหัวแบบนี้กัน?!”
“มีแม่แบบไหน ก็ย่อมสอนลูกสาวออกมาเป็นแบบนั้นแหละ สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่คนของตระกูลกุลจันทร์เรา สันดานมันต่างจากลูกหลานบ้านเราตั้งแต่รากเหง้าแล้ว”
“แม้กระทั่งวิธีการยั่วยวนผู้ชายก็ยังเหมือนกันเปี๊ยบ สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกันจริงๆ ฉันว่านะพิมพ์พรรณ เธอน่าจะไปเปิดคอร์สสอนซะเลย รับรองว่าต้องมีคนอย่างพวกเธอแม่ลูกที่เพ้อฝันอยากจะรวยทางลัดยอมจ่ายเงินเรียนกับเธอเพียบ”
พิมพ์พรรณที่ถูกเอ่ยชื่อคือแม่ของคิมเบอร์ลี่
ในตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะนั่ง ทำได้เพียงคุกเข่าอยู่ข้างๆ คิมเบอร์ลี่ ก้มหน้าต่ำ ใบหน้าซีดเผือด กัดริมฝีปากจนเลือดออก แต่กลับไม่กล้าเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมาแม้แต่คำเดียว
เพราะในบ้านหลังนี้ สองแม่ลูกอย่างพวกเธอไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรเลย!
คิมเบอร์ลี่กะพริบตาปริบๆ มองดูสีหน้าดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจของคนรอบข้าง มองดูท่าทางอดทนต่อความอัปยศอดสูของแม่ ในใจก็รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
นี่มันเหมือนกับตอนที่เธอถูกคนในตระกูลกุลจันทร์สอบสวน หลังจากที่เร็กซ์ถูกวางยาและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอโดยไม่คาดคิด แล้วยังถูกแอบถ่ายรูปไปแฉไม่ใช่เหรอ?!
เมื่อคิดได้ดังนั้น คิมเบอร์ลี่ก็รีบชายตามองไปยังที่นั่งประธานอย่างรวดเร็ว
เป็นอย่างที่คิด ตรงนั้นมีคุณปู่นั่งหน้าตาเคร่งขรึมอยู่ พร้อมกับเร็กซ์ที่ทั้งร่างแผ่ไอความเย็นชาไม่ไยดีผู้คน
ในชั่วพริบตา หัวใจของคิมเบอร์ลี่ราวกับถูกโยนลงไปในกระทะน้ำมันเดือด มันพลุ่งพล่านขึ้นมา
เธอเกิดใหม่แล้ว! เธอเกิดใหม่จริงๆ!
เกิดใหม่ย้อนกลับมาในช่วงเวลาที่เธอมีความสัมพันธ์กับเร็กซ์และกำลังถูกบีบคั้นให้รับสารภาพ!
ชาติที่แล้ว เมื่อต้องเผชิญกับท่าทีแข็งกร้าวของคนในตระกูลกุลจันทร์ ประกอบกับความรู้สึกเพ้อฝันเล็กๆ ที่เธอมีต่อเร็กซ์ซึ่งไม่กล้าบอกใครในใจ ตอนที่ถูกคนในตระกูลกุลจันทร์บีบคั้น เธอจึงยอมรับว่าคนที่นอนกับเร็กซ์คือเธอจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ คนในตระกูลกุลจันทร์จึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คุณปู่ลงโทษให้เธอคุกเข่าบนทางเดินหินกรวดในสวนของตระกูลกุลจันทร์เป็นเวลาสามวันเต็ม จนกระทั่งเธอหมดสติไปเพราะตากฝนหนัก และตรวจพบว่าตั้งครรภ์ ตระกูลกุลจันทร์จึงไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงให้เร็กซ์แต่งงานกับเธอ
นับตั้งแต่นั้นมา สถานะของคิมเบอร์ลี่ในตระกูลกุลจันทร์ก็ยิ่งน่าอึดอัดใจมากขึ้น
เดิมทีเธอก็เป็นแค่ลูกติดที่แม่ของเธอแต่งงานใหม่เข้ามาในตระกูลกุลจันทร์อยู่แล้ว และเธอกับเร็กซ์ก็มีความสัมพันธ์เป็นอาหลานกันในนาม
หลานสาวปีนขึ้นเตียงอาของตัวเอง ไม่ว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือไม่ก็ตาม หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลกุลจันทร์ต้องเสียชื่อเสียงและกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะเยาะ!
คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่าหลังจากเรื่องนี้แพร่ออกไป คิมเบอร์ลี่ก็ได้กลายเป็นผู้หญิงที่สกปรกไร้ยางอายในสายตาของคนทั้งเมือง ผู้หญิงที่ทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้แต่งงานเข้าตระกูลใหญ่ แม้กระทั่งอาแท้ๆ ของตัวเองก็ยังวางแผนใส่!
ชาติที่แล้ว เธอต้องทนรับคำครหานี้ รู้สึกผิดต่อเร็กซ์และวิกกี้ ดังนั้นหลังจากแต่งงานกับเร็กซ์แล้ว เธอจึงยอมทำตามเขาทุกอย่าง มอบหัวใจที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดให้เขา หวังว่าจะสามารถหลอมละลายก้อนหินที่เย็นชาอย่างเร็กซ์ได้
แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่า ลูกสาวของเธอต้องตายอย่างน่าอนาถเพื่อลูกนอกสมรสของเขากับวิกกี้ ส่วนตัวเธอก็จุดไฟเผาวิลล่าและจบชีวิตลงในกองเพลิง!
เมื่อได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอจะไม่โง่เขลาฝากความหวังไว้ที่เร็กซ์เหมือนชาติที่แล้วอีกต่อไป
เธอหลับตาลงแล้วลืมขึ้นอีกครั้ง ในแววตาของคิมเบอร์ลี่เหลือเพียงความกระจ่างใสชัดเจน
ทว่าความเงียบของเธอกลับจุดไฟโทสะของคุณปู่ให้ลุกโชนขึ้นมาอย่างสมบูรณ์
ปัง!
ถ้วยชาในมือของคุณปู่ถูกกระแทกลงบนโต๊ะน้ำชาอย่างแรง “คิมเบอร์ลี่ ถึงแม้เธอจะไม่ใช่ลูกหลานของตระกูลกุลจันทร์ แต่หลายปีมานี้ตระกูลกุลจันทร์ก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูเธอมา ทำผิดก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา หลักการพื้นฐานแค่นี้เธอไม่เข้าใจหรือไง?”
ชาติที่แล้วก็เป็นแบบนี้ คุณปู่ก็พูดเป็นนัยให้เธอรับผิดชอบแบบนี้
เธอคิดว่านี่คือโอกาสของเธอ เลยโง่ๆ ยอมรับ ขอโทษ และถูกทุกคนรังเกียจเดียดฉันท์
พอมาชาตินี้ถึงได้มองเห็นแผนการในแววตาของคุณปู่
ท่านเกลียดพิมพ์พรรณ คุณชายสามแห่งตระกูลกุลจันทร์ผู้สูงส่ง กลับไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้วแถมยังมีลูกติดอีก
และท่านก็ยิ่งเกลียดคิมเบอร์ลี่มากขึ้นไปอีก เป็นแค่ลูกติดแต่ไม่เจียมตัว ยังกล้ามาโลภอยากได้ลูกชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดของท่าน!
แต่ข่าว ‘อาหลานสมสู่กัน’ ทำให้ตระกูลกุลจันทร์ตกเป็นเป้าของสังคม จำเป็นต้องมีใครสักคนออกมารับผิดชอบและแบกรับคำครหาทั้งหมด
และคิมเบอร์ลี่ ก็คือคนที่คุณปู่ผลักออกมาให้เป็นแพะรับบาปนั่นเอง!
พิมพ์พรรณตกใจกับท่าทีของคุณปู่ รีบผลักคิมเบอร์ลี่ที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ อย่างแรง
“คิม รีบขอโทษเร็วเข้า!”
คิมเบอร์ลี่ถูกผลักจนเซแทบล้มลง สายตาของเธอสบเข้ากับเร็กซ์ที่นั่งอยู่บนที่นั่งประธานโดยไม่ได้ตั้งใจ
สายตาของชายหนุ่มเย็นเยียบ มองเธอราวกับมองมดตัวหนึ่งที่สามารถบดขยี้ให้ตายได้อย่างง่ายดาย
ข้างกายเขา มีวิกกี้นั่งอยู่ด้วยดวงตาที่แดงก่ำและบวมเป่ง ดวงตากลมโตชื้นแฉะแดงระเรื่อ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการร้องไห้มา
เมื่อสบตากับคิมเบอร์ลี่ แววตาของเธอก็ฉายแววเคียดแค้นชิงชังออกมาวูบหนึ่ง
คิมเบอร์ลี่ก็นึกขึ้นมาได้ในทันที คนที่มอมยาเร็กซ์ก็คือวิกกี้
วิกกี้ไม่ได้มาจากครอบครัวที่สูงส่ง แม้ว่าเร็กซ์จะประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขากะทันหัน และยืนกรานที่จะหมั้นกับเธอโดยไม่สนใจการคัดค้านของครอบครัว แต่เธอก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนในตระกูลกุลจันทร์อยู่ดี
เมื่อเห็นว่าเร็กซ์ถึงวัยที่ต้องสร้างครอบครัวแล้ว แต่ตระกูลกุลจันทร์ก็ยังผัดวันประกันพรุ่งไม่ยอมให้พวกเขาแต่งงานกันเสียที เธอก็ร้อนใจขึ้นมา
ดังนั้นเธอจึงคิดจะรวบหัวรวบหาง และแน่นอน ถ้าหากสามารถตั้งท้องได้ การมีลูกไว้ต่อรองก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก
ใครจะไปรู้ ว่ากลับถูกเธอที่โผล่มาอย่างกะทันหันตัดหน้าไปเสียก่อน
คิมเบอร์ลี่หลับตาลง เรื่องนี้เร็กซ์รู้หรือเปล่านะ?
จะรู้หรือไม่รู้ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
ในชาตินี้ เธอจะไม่มีวันไปข้องเกี่ยวกับเร็กซ์อีกเด็ดขาด!
เมื่อคิดได้ดังนั้น คิมเบอร์ลี่ก็ใช้มือทั้งสองข้างยันพื้นแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันไม่ขอโทษ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องขอโทษด้วย?!”
น้ำเสียงที่แข็งกร้าวทำให้ทุกคนในห้องนั่งเล่นต่างพากันตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา
“โดนปาปารัสซี่ถ่ายรูปได้ขนาดนั้นแล้ว ยังจะปากแข็งอีก!”
“เขากะจะรอให้กระแสสังคมกดดันตระกูลกุลจันทร์ เพื่อให้เร็กซ์แต่งงานกับเธอน่ะสิ!”
“ทำเป็นเล่นละครตบตาคนอื่น คงหมายถึงคนแบบนี้นี่แหละ ไม่รู้ว่าคนเป็นแม่สั่งสอนมายังไงกัน?!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของพิมพ์พรรณก็ซีดแล้วซีดอีก ร่างกายโงนเงนราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
เธอฟาดฝ่ามือลงบนหลังของคิมเบอร์ลี่หนึ่งครั้ง พร้อมกับบิดแขนของเธอ “แกไอ้เด็กไม่รักดี พูดจาเหลวไหลอะไรของแก? ยังไม่รีบขอโทษคุณปู่กับคนอื่นๆ อีก รีบขอโทษเร็วเข้า!”
พิมพ์พรรณกลัวจริงๆ กลัวว่าตัวเองกับคิมเบอร์ลี่จะถูกไล่ออกจากตระกูลกุลจันทร์ กลัวว่าสามีจะลำบากใจในตระกูลกุลจันทร์ เธอจึงอยากให้คิมเบอร์ลี่ยอมรับผิด เพื่อให้เรื่องนี้จบๆ ไป
แต่เธอไม่รู้เลยว่า ทันทีที่คิมเบอร์ลี่ขอโทษ เรื่องนี้ต่างหากที่จะไม่มีวันจบสิ้น
คิมเบอร์ลี่เจ็บจนหน้าซีด แต่สายตาของเธอกลับมองไปที่คุณปู่และเร็กซ์อย่างไม่เกรงกลัว “พวกคุณมีหลักฐานว่าฉันเป็นคนวางยา หรือว่าเห็นกับตาว่าฉันนอนกับอาเร็กซ์คะ? ถ้าพวกคุณไม่เห็น แล้วจะเอาอะไรมายืนยันว่าคนคนนั้นคือฉัน? แค่ภาพเบลอๆ ไม่กี่ภาพที่ปาปารัสซี่ถ่ายมาได้น่ะเหรอ? หรือว่า อาเร็กซ์ยอมรับด้วยตัวเองแล้ว ว่าคนในคืนนั้นคือฉัน?”
เร็กซ์จะไปยอมรับได้ยังไง!
เขาทั้งเป็นห่วงวิกกี้ ทั้งรังเกียจเธอขนาดนั้น จะไปยอมรับว่ามีความสัมพันธ์อะไรกับเธอได้อย่างไร
ดังนั้น ขอเพียงแค่เธอยืนกรานไม่ยอมรับ ตระกูลกุลจันทร์ก็ไม่สามารถโยนความผิดทั้งหมดมาให้เธอได้!
เมื่อได้ฟังคำแก้ตัวที่ฟังดูมีเหตุผลของเธอ คุณปู่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองเร็กซ์ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ใบหน้าของชายหนุ่มไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ มีเพียงกลิ่นอายรอบกายที่เย็นเยียบจนน่ากลัว นิ้วของเขาค่อยๆ หมุนแหวนหยกบนนิ้วโป้งเบาๆ สายตาที่มองมาที่เธอราวกับจะแช่แข็งเธอให้กลายเป็นน้ำแข็ง
ความกลัวที่ซึมลึกเข้าไปในกระดูก และความเกลียดชังที่สลักลึกอยู่ในสายเลือด ทำให้คิมเบอร์ลี่แทบจะต้านทานสายตาของเขาไม่ไหว
เธอกลัวว่าตัวเองจะอดใจไม่ไหว เผลอเปิดเผยความรู้สึกในใจออกไป
“โอ๊ะ ตอนนี้รู้จักหลีกเลี่ยงความสงสัย เรียกอาเร็กซ์แล้วเหรอ?!” มีคนหัวเราะเยาะอยู่ข้างๆ สายตาที่มองคิมเบอร์ลี่เต็มไปด้วยการถากถาง
ต้องรู้ไว้นะว่า ตลอดหลายปีที่เธออยู่ในตระกูลกุลจันทร์ เธอไม่เคยเรียกเขาว่าอาเร็กซ์เลยสักครั้ง!
เมื่อก่อนคิดว่าลูกติดคนนี้ไม่มีมารยาท พอมาตอนนี้ถึงได้รู้ว่า ที่แท้ก็วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว
คิมเบอร์ลี่หลุบตาลงต่ำ “ไม่ว่าฉันจะเรียกหรือไม่เรียก อาเร็กซ์ก็คืออาเร็กซ์ สถานะของเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง!”
การเคลื่อนไหวของเร็กซ์ที่กำลังหมุนแหวนหยกหยุดชะงักลง นิ้วทั้งห้าของเขากำแน่นในทันใด!
สายตาที่คมกริบและเย็นเยียบราวกับจะมองทะลุร่างของคิมเบอร์ลี่
คิมเบอร์ลี่ไม่แสดงท่าทีทั้งอ่อนน้อมหรือแข็งกร้าว เธอยืนหยัดเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลจากเร็กซ์โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
“เธอพูดว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่เหรอ? แล้วเธอมีหลักฐานอะไรล่ะ?”
